เริมที่อวัยวะเพศ | GENITAL HERPES

เริมที่อวัยวะเพศ Genital Herpes

เริมที่อวัยวะเพศ (Genital herpes) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Herpes Simplex Virus สามารถติดต่อผ่านทางผิวหนังและทางเพศสัมพันธ์ ในปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ บางรายอาจกลับมาเป็นซ้ำได้อีกครั้งเมื่อร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วย เครียด พักผ่อนน้อย ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ

  • Herpes Simplex Virus 1 (HSV 1) ทำให้โรคเริมที่ปาก หรือ บริเวณรอบปาก
  • Herpes Simplex Virus 2 (HSV 2) ทำให้เกิดโรคเริมที่อวัยวะเพศ

เริมที่อวัยวะเพศ อาการเป็นอย่างไร ?

อาการของจะเริ่มจากการเกิดตุ่มพองขนาดเล็ก ที่อาจจะแตกออกเป็นแผลเปิดและก่อให้เกิดความเจ็บปวด แต่แผลจะตกสะเก็ดและหายไปภายในเวลา 2-3 สัปดาห์ ในเพศชายจะปรากฏอาการบริเวณอวัยวะเพศ ถุงอัณฑะ ส่วนในเพศหญิงจะปรากฏอาการบริเวณช่องคลอด ทวารหนัก นอกจากนี้ เริมที่อวัยวะเพศอาจส่งผลให้เกิดอาการอื่นๆได้ เช่น

  • เกิดรอยแตกหรือรอยแดงบริเวณรอบ ๆ อวัยวะเพศ
  • คันหรือชาบริเวณรอบ ๆ อวัยวะเพศหรือทวารหนัก
  • เจ็บขณะปัสสาวะ เนื่องจากมีแผลบริเวณอวัยวะเพศ
  • อาจมีอาการ ไข้ ปวดตัว ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองบวม และอ่อนเพลีย

การวินิจฉัยเริมที่อวัยวะเพศ

การวินิจฉัยเริมที่อวัยวะเพศ

บางครั้งแพทย์ อาจวินิจฉัยโรคได้ง่ายจากการตรวจดูด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะในกรณีรอยโรคที่พบค่อนข้างชัดเจน แต่ในบางครั้งแพทย์อาจต้องทำการตรวจสืบค้นเพิ่มเติมโดยการ เก็บตัวอย่างจากรอยโรคที่พบและส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือการตรวจเลือดของผู้ที่สงสัยเพื่อตรวจหาภูมิคุ้มกันต้านทานต่อเชื้อเริม มักไม่เป็นที่นิยมใช้ในการช่วยวินิจฉัยโรค ทั้งนี้เนื่องจากผลการตรวจอาจไม่ชัดเจน แต่ในบางครั้งก็สามารถช่วยในการวินิจฉัยโรคสำหรับผู้ป่วยบางรายได้

การป้องกันเริมที่อวัยวะเพศ

เราสามารถลดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ และการแพร่เชื้อไวรัสต้นเหตุของเริมที่อวัยวะเพศได้ ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น

  • สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
  • ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีแผลบริเวณอวัยวะเพศ
  • ควรล้างมือให้สะอาดก่อนจับอวัยวะเพศ
  • หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น
  • ตรวจคัดกรองหา โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

การรักษา เริมที่อวัยวะเพศ

ในปัจจุบันยังไม่ยาหรือวัคซีน ในการรักษาเริมให้หายขาดได้ ทำได้เพียงบรรเทาอาการ และลดโอกาสการแพร่เชื้อไวรัสสู่ผู้อื่น ซึ่งยาในการรักษาอาการนั้นต้องได้รับการสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น โดยการใช้ยาต้านไวรัส เช่น ยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) ยาวาลาไซโคลเวียร์ (Valacyclovir) ซึ่งจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น บรรเทาความรุนแรง ลดระยะเวลา และความถี่ของการกลับมาเกิดซ้ำ

ดูและตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นเริมที่อวัยวะเพศ

ดูและตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นเริมที่อวัยวะเพศ

สิ่งที่ควรทำเมื่อเป็น เริมที่อวัยวะเพศ

  • กินยาให้ครบตามแพทย์สั่ง
  • รักษาบริเวณแผลให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ
  • ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผล หากเผลอให้รีบล้างมือป้องกันเชื้อแพร่ไปอวัยวะส่วนอื่นๆ
  • ควรบอกคู่นอนว่าเมื่อคุณทราบว่าได้รับเชื้อ

สิ่งที่ไม่ควรทำ

  • หลีกเลี่ยงแกะแผล เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ
  • หลีกเลี่ยงให้ผู้อื่นสัมผัสแผล
  • งดการมีเพศสัมพันธ์ขณะที่มีอาการอยู่

ภาวะแทรกซ้อนของเริมที่อวัยวะเพศ

ภาวะแทรกซ้อนของเริมที่อวัยวะเพศ บางกรณีอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพ ดังนี้

  1. การติดเชื้อแบคทีเรีย แผลเริมที่อวัยวะเพศเป็นแผลเปิด ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ซึ่งอาจลุกลามกลายเป็นหนอง บวมแดง อักเสบ และอาจเกิดเป็นฝีหนองได้
  2. การอักเสบบริเวณท่อปัสสาวะ ในบางกรณี เริมที่อวัยวะเพศอาจลุกลามไปยังท่อปัสสาวะ ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบบวม อาจรุนแรงจนถึงขั้นขัดขวางการไหลของปัสสาวะ
  3. ความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ แผลเริมที่อวัยวะเพศเป็นเหมือนรอยแผลเปิด ทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น HIV ซิฟิลิส หนองใน

ขอบคุณข้อมูล : Pobpad, jia1669

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เริมที่อวัยวะเพศ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย อาการจะรุนแรงมื่อเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นอาการจะน้อยลง เริมเป็นโรคที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เนื่องจากเชื้อไวรัสเหล่านี้จะยังคงอยู่ในร่างกาย และยังสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก หากร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ